ผักกูด หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ "ผักกูดน้ำ" เป็นพืชพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปลูกง่าย โตเร็ว และสามารถนำมาประกอบอาหารกินได้อร่อยด้วยในหลากหลายเมนู
ผักกูด ไม่ใช่พืชตระกูลพืชผักทั่วไป แต่เป็นตระกูลเฟิร์น(Fern) หรือเฟิน มีชื่อเรียกอื่นอื่นๆ หลายชื่อ ผักกูดที่นิยมนำมารับประทานคือ กูดน้ำ ซึ่งจะขึ้นเจริญเติบโตได้ดีในที่โล่งมีน้ำชื้นแฉะ ตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่สะอาด ก้านใบจะยาว ได้ถึง 1 เมตร ยอดเป็นมันวาว ใบสีเขียว
ข้อควรระวัง ผักกูดมีหลายชนิด บางชนิดก็ดูคล้ายกันกับผักกูดน้ำแต่กินไม่ได้ จึงควรระวังหากไม่มั่นใจก็ไม่ควรเก็บมากิน
การปลูกผักกูด ผักกูดเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องดูแลมากนัก ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บกินได้นาน ขยายพันธุ์โดยการแยกต้นออกมา ผักกูดจะเจริญเติบโตได้ดีที่ปลูกในที่ค่อนข้างชื้นมีแสงรำไร ใช้เพียงปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักบำรุงดินก็เพียงพอที่จะทำให้ผักกูดโตไว และควรหมั่นเก็บยอดผักกูดกินบ่อยๆ เพราะยิ่งเก็บยอดผักกูดก็จะยิ่งแตกยอดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
ผักกูดมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่ค่อนข้างมาก มีวิตามิน A และกากใยค่อนข้างสูงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยระบบการย่อยอาหาร และการขับถ่ายได้ดี มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะและที่สำคัญ ผักกูดจะสามารถดูดซับเอาสารพิษที่ติดค้างในร่างกายในอาหารและขับออกจากร่างกาย แก้ไข้ตัวร้อน ช่วยบำรุงสายตา ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ผักกูดยังมีแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น ธาตุเหล็กสูงมาก เมื่อกินร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุอาหารได้ดี ช่วยบำรุงโลหิต และแก้โรคโลหิตจาง
ข้อควรระวังในการนำผักกูดมากินเป็นอาหาร ไม่ควรกินผักกูดสด เพราะนอกจากเสี่ยงพยาธิตามธรรมชาติแล้วในผักกูดมีสารออกซาเลตค่อนข้างมากจะทำให้เป็นนิ่วและไตอักเสบได้ แต่ถ้านำไปปรุงจนสุกก็สามารถลดและกำจัดสารดังกล่าวออกไปได้
ผักกูดมีรสชาติจืดอมหวาน นิยมนำเอายอดอ่อนและใบอ่อนมากินเป็นอาหาร เมนูยอดนิยมจากผักกูดได้แก่ แกงเลียงผักกูด แกงส้มผักกูด และยังสามารถนำไปลวกกะทิเป็นผักกินจิ้มน้ำพริกก็อร่อย โดยเฉพาะเมนูต้มส้มผักกูดอร่อยมาก
เคล็ดลับทำต้มส้มผักกูดกับเนื้อหมู
1 เตรียมวัตถุดิบ มี ผักกูดเด็ดเอามาเฉพาะใบจากยอดอ่อน 1 กำมือใหญ่ๆ , เนื้อหมูหั่น 4 ช้อนโต๊ะ , กะปิ 1 ช้อนชา , กระเทียมจีนทุบพอแตก 1/2 หัว , น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ , พริกไทยป่นนิดหน่อย และน้ำ 2 ถ้วย
2 นำน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมูหากไม่มีก็ใช้น้ำเปล่าก็ได้ ประมาณ 2 ถ้วย ใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดใส่เนื้อหมู ระหว่างที่ต้มเนื้อหมูจะมีฟองเลือดขุ่นๆ ลอยขึ้นมาให้ตักทิ้งให้หมด เพื่อจะได้น้ำต้มผักที่ใสน่ากิน พอฟองหมดก็ใส่กะปิและกระเทียม
3 พอเนื้อหมูเริ่มสุกดีตามต้องการก็ใส่กะปิและกระเทียมลงไป คนให้กะปิละลายดี พอน้ำในหม้อเดือดจัดอีกครั้งก็ใส่ใบผักกูดลงไป แป๊บเดียวผักกูดก็จะเริ่มสุก ก็ปิดไฟตักใส่ถ้วยที่เทน้ำมะนาวรอไว้แล้ว จากนั้นโรยพริกไทยป่นเสริฟกินกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย
เคล็ดลับการทำต้มส้มผักกูดให้อร่อยและน่ากิน
1 ถ้าเราใช้น้ำต้มกระดูกหรือน้ำซุป ในการปรุงก็จะได้น้ำต้มผักกูดที่มีรสชาติกลมกล่อมอร่อยเข้มข้นขึ้น แต่ถ้าไม่มีก็สามารถใช้น้ำเปล่าแทนได้
2 ในเนื้อหมูจะมีเศษเลือดตกค้างอยู่ ซึ่งจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำต้มผักของเราสีคล้ำไม่น่ากิน ดังนั้นการลวกเนื้อก่อนปรุง หรือตักฟองซึ่งมัเศษเลือดลอยออกมาในหม้อต้มของเราทิ้งไปก็จะทำให้ได้น้ำต้มผักใสสีสวยน่ากินขึ้นเยอะเลย
3 น้ำมะนาวมีวิตามินซีและประโยชน์อยู่มาก มันจะสูญเสียไปทันทีที่โดนความร้อนบนเตาไฟ ดังนั้นการเติมน้ำมะนาวในภายหลังจะช่วยรักษากลิ่น รสชาติ และวิตามินในน้ำมะนาวได้ดีกว่าใส่ลงไปในหม้อร้อนๆ บนเตามากทีเดียว
RKA Farm วันนี้เราเป็นเพียงฟาร์มเล็กๆ ที่เน้นปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์แนวเกษตรธรรมชาติ เพื่อใช้บริโภคในครอบครัวของเราเอง ยังไม่ได้มีวัตถุประสงค์ผลิตเพื่อการค้า เราพยายามปลูกพืชพรรณให้หลากหลาย พยายามสร้างระบบนิเวศน์ที่สมดุลในพื้นที่เล็กๆ และในอนาคตเราอาจจะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ผลิตอาหารสุขภาพตัวเล็กๆ อีก 1 รายก็ได้
สนใจแวะไปเที่ยวชมหรือขอแบ่งเมล็ดและพันธุ์ผักพื้นบ้านได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โทร. 084-625-9929